คมนาคมเผยหลัง “ศาลปกครองสูงสุด”พิพากษายกฟ้องคดีฯรถไฟฟ้าสายสีส้ม ทางด้าน รฟม. เตรียมเสนอผลการคัดเลือก-ร่างสัญญาฯ ต่อกระทรวงคมนาคม ก่อนเสนอ ครม. พิจารณาภายใน 30 วัน คาดเปิดให้บริการฝั่งตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ–มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ภายในปี 71
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายกฟ้องในคดี บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือก ตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) นั้นถือเป็นคดีสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับประเด็นพิพาทสำหรับการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และมีผลคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ส่งผลให้คดีในศาลปกครองทุกคดีเกี่ยวกับประเด็นพิพาทการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ มีคำพิพากษาถึงที่สุดทุกคดีแล้ว
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ในลำดับต่อไป รฟม. จะดำเนินการเสนอผลการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุนที่ผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุด และเงื่อนไขสำคัญของสัญญาร่วมลงทุนต่อไปตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยกระทรวงคมนาคมมีระยะเวลาในการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป
ขณะเดียวกัน เมื่อ ครม. มีมติให้ความเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนและเงื่อนไขสำคัญของสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ แล้ว รฟม. จะเร่งรัดการดำเนินงาน โดยมีแผนเปิดให้บริการโครงการสำหรับส่วนตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ภายในเดือนพฤษภาคม 2571 และหากมีความคืบหน้าของการเปิดให้บริการโครงการตลอดทั้งเส้นทางจะแจ้งให้ประชาชนได้ทราบต่อไป
” เรื่องการคัดเลือกผู้ประกอบการรถไฟฟ้าสีส้มนั้น เรื่องนี้เคยเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว โดยทางรัฐมนตรีคมนาคมในขณะนั้นได้เสนอให้ที่ประชุมให้ความเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนร่วมทุนโครงการรถไฟฟ้าสีส้มที่ทางบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ(BEM) เป็นผู้ชนะการประกวดราคา แต่ทางคณะรัฐมนตรีซึ่งผมร่วมอยู่ในขณะนั้นด้วย มีความเห็นว่าเรื่องนี้ยังไม่ควรให้ความเห็นชอบเนื่องจากยังมีประเด็นฟ้องร้อง กันอยู่ที่ศาลปกครอง จึงควรรอให้คดีสิ้นสุดที่ศาลปกครองก่อนตามคำแนะนำของคณะกรรมการกฤษฎีกา” นายสุริยะ กล่าว
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกรณีที่ทาง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร้องเรียนมายังกระทรวงคมนาคม ซึ่งทางกระทรวงฯได้ส่งเรื่องให้ รฟม.ดำเนินการชี้แจง และในขณะนี้ รฟม. ได้รายงานกลับมายังกระทรวงฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานครทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร (กม.) โดยส่วนตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์)) ระยะทาง 22.5 กม. จำนวน 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี) ส่วนตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 13.4 กม. จำนวน 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย)