สถิติวันแรก ต่ำกว่าเป้า รถไฟมีเหตุอันตราย 1 ครั้ง

กรมรางเผยวันแรกของวันหยุดต่อเนื่องช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 มีผู้ใช้บริการระบบราง รวมกว่า 1.2 ล้านคน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 19.96 ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง พบมีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟ 1 ครั้ง

วันนี้ (30 ธันวาคม 2566) ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่านายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงได้มอบนโยบายให้หน่วยงานด้านระบบรางอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้บริการระบบรางในการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 โดยได้เตรียมรถขนส่งทางรางให้เพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง และเน้นย้ำด้านความปลอดภัยในการเดินทางด้วยระบบราง

กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้นำนโยบายดังกล่าวมาขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดย ขร.ประสานผู้ให้บริการระบบรางดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว ซึ่ง รฟท.จัดเพิ่มตู้พ่วงไปกับขบวนรถที่มีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่น พร้อมจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารเพิ่มเติม และผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าเพิ่มความถี่ในการให้บริการในช่วงที่มีการเดินทางหนาแน่น พร้อมทั้งขยายเวลาให้บริการในวันสิ้นปีจนถึงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2567

ในส่วนมาตรการด้านความปลอดภัย ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ โดยกำชับให้ตรวจสอบความพร้อมขบวนรถให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังความปลอดภัยจากกล้องวงจรปิด CCTV ตามสถานีรถไฟ/รถไฟฟ้า และบนขบวนรถไฟฟ้าและรถไฟทั่วประเทศ พร้อมกับเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ สารเสพติดของพนักงานก่อนปฏิบัติหน้าที่ และห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์บนขบวนรถไฟและบริเวณสถานีรถไฟทุกกรณีอย่างเด็ดขาด

พร้อมทั้ง รฟท. ได้จัดตั้งศูนย์ความปลอดภัยทั่วประเทศเพื่อรับแจ้งเหตุและประสานงานต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ในโอกาสนี้ รฟท. ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นจัดอาสาสมัครเฝ้าระวังทางผ่านเสมอระดับรถไฟ – รถยนต์ ที่มีความเสี่ยง หรือบริเวณที่เป็นชุมชนหนาแน่นเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันเหตุทั้งทางถนนและทางรถไฟ พร้อมกับร่วมกับกองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการตั้งศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมบนรถไฟ

โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ตรวจตราความเรียบร้อยบนขบวนรถ ควบคู่กับการมีเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ และพนักงานรักษาความปลอดภัยช่วยดูแลเพิ่มอีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ ได้นำระบบติดตามขบวนรถไฟ (TTS:Train Tracking System) ที่สามารถตรวจสอบเวลา และตำแหน่ง ขบวนรถทุกขบวน โดยระบบจะแสดงสถานะการเดินรถให้ทราบทันที ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสาร และผู้ที่มารอรับที่ปลายทาง สามารถวางแผนการเดินทางรับส่งได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานด้านความสะดวกและความปลอดภัย ช่วยสร้างความมั่นใจในการเดินทางแก่ผู้โดยสารตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

ขณะเดียวกัน รฟท.ร่วมกับ บริษัท ขนส่ง จำกัด บูรณาการโครงข่ายคมนาคม ตามนโยบาย Quick Win “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” โดยได้นำรถบัสโดยสารเฉพาะของ บขส. (ไม่รวมรถร่วมบริการและรถตู้โดยสาร) เข้ามาจอดส่งผู้โดยสารขาเข้าบริเวณประตูที่ 3 ของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้ปรับกำหนดเวลาการเดินรถให้สอดคล้องกับเวลาเข้า – ออกของรถไฟแต่ละขบวน เพื่อรองรับผู้โดยสารทั่วไปที่เดินทางต่อเนื่อง

และบริษัท รถไฟฟ้า รฟท. จำกัด (รฟฟท.) ได้ขยายเวลาให้บริการของขบวนรถสายสีแดง ต้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จากเวลา 05.00 น. เป็นเวลา 04.00 น. ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 – 2 มกราคม 2567 สำหรับกลุ่มผู้โดยสารที่จะเดินทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีแดง ช่วยเพิ่มทางเลือกการเดินทางที่สะดวกอย่างไร้รอยต่อให้กับประชาชน

ดร.พิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวาน (วันที่ 29 ธันวาคม 2566) ซึ่งเป็นวันแรกของวันหยุดต่อเนื่องช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 – 4 มกราคม 2567 มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,200,186 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลต่อสายสีแดงฟรี 16 คน) ต่ำกว่าประมาณการ 299,271 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 19.96 (ประมาณการ 1,499,457 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 90,322 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง จำนวน 1,109,864 คน-เที่ยว โดยมีรายละเอียด ดังนี้

You May Also Like